วันเสาร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2558

วิธีทำให้แบตเตอรี่โทรศัพท์ใช้งานได้นานขึ้น

                                     วิธีทำให้แบตเตอรี่โทรศัพท์ใช้งานได้นานขึ้น


      ปัจจุบันนี้โทรศัพท์นับเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินชีวิตของผู้คนทำให้การสื่อสารรวดเร็วขึ้น หลายคนต้องหงุดหงิดเนื่องจากโทรศัพท์แบตหมดระหว่างการติดต่อสื่อสาร ในการส่งข้อมูลสื่อสารซึ่งบางรุ่นก็สามารถทำงานเกือบเทียบเท่า Notebook เลยทีเดียวจะเห็นได้ว่าความสะดวกสบายนี้ก็ต้องแลกด้วยพลังงานที่ต้องขับเคลื่อนให้ Application ต่างๆให้ทำงานได้เป็นปกติ ยิ่งหน้าจอโทรศัพท์ที่มีขนาดใหญ่พลังงานของแบตเตอรี่ก็ยิ่งหมดเร็วขึ้น ซึ่งวิธีการตั้งค่าโทรศัพท์ก็ช่วยให้ให้ช่วยยืดระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่ให้นานขึ้นได้มากขึ้นเลยทีเดียว

      วิธีทำให้แบตเตอรี่โทรศัพท์ใช้งานได้นานขึ้นควรตั้งค่าดังต่อไปนี้
1.ตั้งปิดเสียงปุ่มกด

2.ปรับค่าแสงที่หน้าจอให้เหมาะสมไม่สว่างจ้าจนเกินไป

3.ตั้งค่าหน้าจอให้ปิดอัตโนมัติเมื่อไม่ได้ใช้งาน

4.ปิดการเชื่อมต่อข้อมูลเมื่อไม่ได้ใช้งาน

5.ใช้ภาพพื้นหลังเป็นแบบสีทึบ เช่นสีดำเป็นต้น

6.ไม่ตั้งค่าหน้าจอเป็นภาพเคลื่อนไหว


      เพียงเท่านี้ก็ไม่ต้องชาร์จแบตเตอรี่บ่อยๆ ช่วยให้ประหยัดค่าพลังงานไฟฟ้าได้อีกด้วย

วิธีขับรถยนต์ให้ประหยัดน้ำมัน



วิธีขับรถยนต์ให้ประหยัดน้ำมัน 

                                       
      ปัจจุบันรถยนต์เข้ามามีส่วนสำคัญในการดำเนินชีวิตในการทำงาน และจำเป็นสำหรับมากสำหรับผู้ที่มีอาชีพที่ต้องใช้รถยนต์อยู่เป็นประจำ
เนื่อง จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นเรื่อยๆ ทั้งค่าครองชีพ ราคาสินค้าก็เพิ่มขึ้นตามเป็นเงาตามตัว การควักเงินเติมน้ำมันแต่ละครั้งก็ทำเอาต้องปาดเหงื่อกันเลยที่เดียว


วิธีขับรถยนต์ให้ประหยัดน้ำมัน มีข้อปฏิบัติอยู่ดังนี้
  
   1.วางแผนก่อนออกเดินทางเพื่อจะได้ถึงจุดหมายด้วยระยะทางที่สั้นที่สุด ถึงไวที่สุด ประหยัดน้ำมันที่สุด หรือเพื่อหลบเลี่ยงปัญหารถติด
   2.ขณะสตาร์ทเครื่องยนต์ ไม่ควรเปิดเครื่องปรับอากาศ ไฟหน้ารถ และเครื่องเสียง จะทำเครื่องยนต์กินน้ำมันเพิ่มขึ้น
   3.เติมลมยางให้พอดีกับคู่มือที่ระบุไว้


   4.ไปทางเดียวกันไปด้วยกัน ยังช่วยลดปัญหารถติดได้อีกด้วย
   5.ปรับอุณหภูมิเครื่องไม่ให้เย็นจนเกินความจำเป็น

   6.ก่อนถึงไฟแดงให้ชะลอความเร็วลงด้วยการถอนคันเร่ง แล้วค่อยเหยียบเบรค ทั้งช่วยยืดอายุการใช้ผ้าเบรคให้ยาวนานขึ้น
   7.ไม่ตกแต่ง หรือเพิ่มอุปกรณ์ให้น้ำหนักเพิ่ม ยิ่งหนักยิ่งเปลืองน้ำมัน
   8.ติดฟิล์มกรองแสงป้องแสงแดดเข้าไปในตัวรถ ช่วยให้เครื่องปรับอากาศทำงานน้อยลง ทำให้การใช้น้ำมันก็น้อง
   9.ไม่ขับก็ต้องดับเครื่องยนต์ขณะจอดรอ
   10.เครื่องปรับอากาศเครื่องล้างทุกๆ 6 เดือน



   11.ก่อนถึงจุดหมายปิดเครื่องปรับอาศเนื่องจากความเย็นยังคงเหลืออยู่
   12.เข้ารับการตรวจสภาพ อุปกรณ์ และเครื่องยนต์โดยสม่ำเสมอ เป็นประจำ เช่น หม้อน้ำ กรองอากาศ เครื่องยนต์ แผงเครื่องปรับอากาศ เป็นต้น 

  • ข้อ ปฏิบัตินี้ลองทำตามดูก็จะช่วยประหยัดได้พอสมควร ถ้าให้ดีควรหลีกเลี่ยงการใช้รถ ไปใช้อย่างอื่นแทน เช่น โทรศัพท์ โทรสาร หรือ อีเมล์ ก็ได้

แนวทางประหยัดพลังงานไฟฟ้า

แนวทางประหยัดพลังงานไฟฟ้า
   การทำให้การใช้พลังงานไฟฟ้าลดลงได้ ไม่เพียงแต่ช่วยลดต้นลดเพิ่มกำไรให้แก่ผู้ดำเนินการเพียงเท่านั้น ยังส่งผลให้พลังงานมีเหลือเก็บไว้ให้ลูกหลานได้ใช้ต่อไป และช่วยลดภาวะโลกร้อนที่ชาวโลกกำลังเผชิญอยู่ขณะนี้     
   ขั้นตอนการดำเนินการลดการใช้พลังงานไฟฟ้า จะขอพูดถึงภาพรวมของการใช้พลังงานไฟฟ้าส่วนใหญ่จะเป็น ระบบแสงสว่าง และ ระบบทำความเย็น สำหรับ บ้านพัก ร้านค้า อาคาร สำนักงาน โรงแรม รีสอร์ท ยังไม่กล่าวถึงโรงงาน เบื้องต้นต้องสำรวจสภาพการใช้พลังงานไฟฟ้าปัจจุบันก่อน เพื่อจะได้ตรวจสอบผลหลังจากทำการปรับปรุง แก้ไข ปรับเปลี่ยน ว่าผลการดำเนินการ การใช้พลังงานไฟฟ้าลดลงไปกี่หน่วย(Watt) คิดเป็นเงินได้กี่บาท ซึ่งนั่นก็คือต้นทุนที่เป็นค่าไฟฟ้าที่จ่ายน้อยลงจึงเป็นผลทำให้มีเงินเหลือ เป็นกำไรที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง 
   แนวทางการลดการใช้พลังงานไฟฟ้าระบบแสงสว่างมีดังนี้นะครับ
   -เลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยลง แต่ประสิทธิภาพเท่าเดิม หรือมากกว่า มีอายุการใช้งานเพิ่มขึ้น เช่น หลอดฟลูออเรสเซ็น เปลี่ยนเป็นแบบ LED,หลอดตะเขียบ เป็นแบบ LED,Flood Light เป็นแบบ LED หรือ บัลลาสต์เป็นแบบ บัลลาสต์อิเล็กทรอนิคส์

Fluorescent LED

Lamp LED

Fluorescent Ballast Electronic


  -ใช้เท่าที่จำเป็น เช่น ติด ตั้งอุปกรณ์ตัดต่อระบบแสงสว่าง ได้แก่ ติดตั้งสวิทช์แสงแดดสั่งหลอดไฟให้ทำงานเองเฉพาะกลางคืน แถมยังลดการจ้างคนปิดเปิดไฟ หรือมีเวลาไปทำงานอื่น,ติดตั้งสวิทช์ตรวจจับการเคลื่อนไหวให้หลอดไฟทำงานแค่ ช่วงที่มีคนเดินผ่านในเวลากลางคืน
Motion Sensor

Photo Switch


   แนวทางการลดการใช้พลังงานไฟฟ้าระบบทำความเย็น หรือ ระบบปรับอากาศมีดังนี้นะครับ
   -การทำความสะอาด จุดที่ต้องทำความสะอาดหลักๆคือชุด คอยล์ร้อน(Condenser) ถ้ามีการอุดตันจะทำให้สิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้ามาก ถ้ามีการอุดตันมากๆ Compressor ทำงานหนักจนขดลวดไหม้ได้
ต่อมาก็เป็น คอยล์เย็น(Evaporator),กรองอากาศ(Air Filter) 2 รายการหลังนี้จะทำให้เครื่องปรับอากาศ
ไม่ค่อยเย็น แต่ถ้าอุดตันมากๆ ก็ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าได้เช่นกัน และไม่ต้องหายใจเอาฝุ่นที่แอร์เป่าลงมาด้วย


 
   -เลือกใช้เครื่องปรับอากาศแบบประหยัดพลังงาน(Inverter) ซึ่งปัจจุบันมีอยู่หลากหลายยี้ห้อแต่ราคาก็ยังแพงอยู่ ถ้าจะให้คืนทุนเร็วก็ต้องติดตั้งจุดที่ต้องเปิดใช้งานตลอดเวลา เครื่องปรับอากาศถ้าเปิดใช้งานเฉพาะกลางคืน กลางวันไปทำงานการคืนทุนก็จะนานขึ้น
Air condition เบอร์5


 -ปรับปรุงระบบสารความเย็น(5 Plus) ระบบนี้บางท่านอาจจะไม่รู้จัก ซึ่งระบบนี้จะช่วยให้ Compressure ทำงานน้อยลง ก็จะทำให้พลังงานไฟ้ฟ้าก็จะลดลงตามไปด้วย ระบบนี้แนะนำให้ติดตั้งกับเครื่องปรับอากาศรุ่นเก่านะครับ สำหรับท่านที่คิดจะเปลี่ยนเป็นแบบ Inverter ถ้าใช้แบบนี้จะคืนทุนเร็วกว่าเพราะวิธีการทำแค่ติดตั้งอุปกรณ์ 5 Plus เพิ่มเข้าไป


Equipment 5 Plus
   แนวทางประหยัดพลังงานไฟฟ้า ถ้าคนทั้งประเทศได้ช่วยกัน" ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง แก้ไข" ให้การใช้พลังงานลดลงได้ก็สามารถลดการซื้อพลังงานจากต่างประเทศได้หลายล้านเลยนะครับ

การคำนวณค่าไฟฟ้า

การคำนวณค่าไฟฟ้า 

อัตราค่าไฟฟ้าของการไฟฟ้า จะแบ่งออก 8 ประเภท มีดังต่อไปนี้
1.บ้านอยู่อาศัย
2.กิจการขนาดเล็ก
3.กิจการขนาดกลาง
4.กิจการขนาดใหญ่
5.กิจการเฉพาะอย่าง
6.ส่วนราชการและองกรค์ที่ไม่แสวงหากำไร
7.สูบน้ำเพื่อการเกษตร
8.ไฟฟ้าชั่วคราว
    รายละเอียดเพิ่มเติมเข้าไปดูเว็บไซต์ของการไฟฟ้านนครหลวงได้ที่ http://www.eppo.go.th/power/pw-Rate-PEA.html
    จะขอยกตัวอย่างการคำนวณอัตราค่าไฟฟ้าประเภท 2 เป็น กิจการขนาดขนาดเล็ก
    ก่อนจะทำการคำนวณค่าไฟฟ้าจำเป็นต้องรู้วิธีเช็คค่าการใช้พลังงานของอุปกรณ์ ที่เราต้องคำนวณเสียก่อน วิธีเช็คจะดูจาก Nameplate ที่อุปกรณ์ หรือใช้เครื่องมือวัด(Power Meter) วัดก็ได้ ก่อนที่จะทำการคำนวณต้องรู้จักคำศัพท์เฉพาะ หรือคำจำกัดความทางไฟฟ้าเบื้องต้นเสียก่อน สำหรับผู้ที่ไม่ได้เรียนมาทางด้านนี้
    เช่น    W = กำลังไฟฟ้า มีหน่วยเป็นวัตต์ (Watt)
             V = แรงดันไฟฟ้า มีหน่วยเป็นโวลต์ (Volt)
             I = กระแสไฟฟ้า มีหน่วยเป็นแอมแปร์ (Ampere)
ตัวอย่างที่1. พัดลมตั้งพื้นขนาด 50 W เปิดใช้งานช่วง 8.00-20.00 น. รวมแล้ว 12 ชม./วัน ถ้าคิดค่าไฟฟ้าที่ 30วัน/เดือน ค่าไฟฟ้าจะต้องจ่ายเท่าไหร่ต่อพัดลม 1 ตัว



สูตรการคำนวณ
        ค่าไฟฟ้า = กำลังไฟฟ้า(W)xชั่วโมงทำงานxจำนวนวันxค่าไฟฟ้า/หน่วย
                                                  1,000
                    = 50x12x30x4.3
                             1,000
                    = 77 บาท/เดือน/ตัว
ตัวอย่างที่2. หลอดไฟแสงจันทร์ขนาด 400 W เปิดใช้งานตั้งแต่เวลา 18.00-06.00 น. รวมแล้ว 12 ชั่วโมง/วัน ถ้าคิดค่าไฟฟ้าที่ 30วัน/เดือน ค่าไฟฟ้าจะต้องจ่ายเท่าไหร่ต่อหลอด 1 หลอด


:ค่ากำลังไฟฟ้าที่ได้จากการใช้เครื่องวัดพลังงานไฟฟ้า
สูตรการคำนวณ
        ค่าไฟฟ้า = กำลังไฟฟ้า(W)xชั่วโมงทำงานxจำนวนวันxค่าไฟฟ้า/หน่วย
                                                  1,000
                    = 400x12x30x4.3
                             1,000
                    = 619 บาท/เดือน/ตัว
: ถ้าเปิดทีละหลายๆหลอดค่าไฟฟ้าก็จ่ายเพิ่มมาก จะเห็นว่าค่าไฟฟ้าอุปกรณ์ไฟฟ้าใดมีวัตต์มากก็สิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้ามากเป็นเงานตามตัว

วันศุกร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2558

สาเหตุที่ต้องลดการใช้พลังงาน

สาเหตุที่ต้องลดการใช้พลังงาน

  แหล่งที่มาของไฟฟ้า
    เศรฐกิจไทยในปัจจุบันเติบโตอย่างรวดเร็วทำให้ความต้องการใช้พลังงานจึงเพิ่มขึ้นมากเรื่อยๆ การหาแหล่งพลังงานต้องหาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เบื้องต้นที่ควรทราบว่าพลังงานไฟฟ้ามาจากไหน
    ประเทศไทยมีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานอยู่ 5 แนวทาง
1.ซื้อพลังงานจากประเทศเพื่อนบ้าน 6,799 kW/Hr (52%)
2.พลังงานไฟฟ้าร่วม 3,069 kW/Hr (24%)
3.พลังงานความร้อน 1,974 kW/Hr (15%)
4.พลังงานน้ำ 1,136 kW/Hr (9%)
5.กังหันแก๊ส 22 kW/Hr (0.2%) 

     จะเห็นได้ว่าประเทศไทยต้องพึ่งพาประเทศเพื่อนบ้านในการใช้พลังงานประมาณ 52% ซึ่งถ้าเพื่อนบ้านเราไม่ขายพลังงานให้ก็ลองคิดดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น จะอยู่กันยังไงคงต้องย้อนกลับไปในสมัยที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ประเทศไทยต้องส่งออกสินค้าภาคการเกษตรเป็นหลักเพื่อแลกกับค่าพลังงานจากต่างประเทศ ต้องเสียดุลการค้าให้ต่างประเทศ และอีกทั้งยังก่อให้เกิดปัญหาจากการผลิตไฟฟ้าตามมา เช่น
     การใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า
 - ราคาไม่คงที่ผันแปรอยู่ตลอดเวลา
 - กำลังสำรองก๊าซธรรมชาติมีจำนวนจำกัด
     การใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า
 - ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ
 - ราคาไม่คงที่ ขึ้นกับราคาน้ำมันของตลาดโลก
 - ไฟฟ้าที่ผลิตได้มีต้นทุนต่อหน่วยสูง
     การใช้ชีวมวลเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า 
 - ชีวมวลเป็นวัสดุที่เหลือใช้จากการแปรรูปทางการเกษตรมีปริมาณสำรองที่ไม่แน่นอน
 - การบริหารจัดการเชื้อเพลิงทำได้ยาก
     การใช้น้ำเป็นพลังงานในการผลิตไฟฟ้า
 - การเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าขึ้นกับปริมาณน้ำ ในช่วงที่สามารถปล่อยน้ำออกจากเขื่อนได้
 - การก่อสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ในประเทศไทยมีข้อจำกัดทำให้เกิด น้ำท่วมเป็นบริเวณกว้างส่งผลกระทบต่อบ้านเรือน
     การใช้ก๊าซชีวภาพเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า - ระบบต้องการพื้นที่ค่อนข้างมาก
 - ต้องมีระบบกำจัดก๊าซเสีย
 - ต้องมีผู้เชี่ยวชาญดูแล

    จะเห็นได้ว่าพลังงานที่นำมาผลิตไฟฟ้านั้นเป็นพลังงานที่ใช้แล้วหมดไป ซึ่งต่อไปในอนาคตพลังงานนั้นก็ต้องหาพลังงานมาทดแทน ซึ่งอยู่ที่คนที่อยู่ในปัจจุบันนี้จะต้องใช้พลังงานอย่างประหยัด เพื่อช่วยลดภาระการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ และลดปัญหาสิ่งแวดล้อมต่างๆที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
พลังงานเหลือน้อยต้องใช้อย่างรู้คุณค่า และใช้เท่าที่จำเป็น

                          ถ้าทุกคนยังไม่ช่วยกันประหยัดพลังงาน ต่อไปข้างคงต้องย้อนยุคหินอีกครั้ง